เกิดมาแล้วเปื่อยหนักจนต้องรอความกรุณาจากฟ้าเบื้องบน ส่งอวัยวะสำรองจากผู้มีจิตใจงามที่ได้ทำการบริจาคร่างกายให้กับเพื่อนมนุษย์ ก็เป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัจพอแรงอยู่แล้ว แต่นั่น..คงยังไม่แรว๊งง..เท่าพอถึงเวลาได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะที่จำเป็นต้องซ่อมโดยด่วน ดั๊น..มีอิ่หมอกับโรงพยาบาลสั่ว ๆ ยัดเครื่องเคราชิ้นใหม่ของร่างกายที่มีเชื้อ HIV หรือเชื้อเอดส์ให้อีกซะนี่
ข่าวนี้จะกองหรือไม่กรองก็ไม่รู้ค่ะคุณขา แต่มันข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแดนไต้หวันโน่นแน่ะ
โดยที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ในกรุงไทเป ของไต้หวัน ได้นำอวัยวะ จากผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (เชื้อเอดส์) ซึ่งได้รับการบริจาค ปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยถึง 5 รายด้วยกัน !!!!!..
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและบอกว่าขณะนี้ผู้ป่วยที่ได้รับอวัยวะของผู้ติดเชื้อ กำลังได้รับยาต้านเชื้อเอชไอวีแล้ว (พี่คะ อันนั้นมันอวัยวะที่ปลูกถ่ายจากน้องเอชนะ ได้รับยาต้านเชื้อแล้ว เชื้อมันจะหายเหรอคะ) และได้โพสข้อความชี้แจงผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาล เมื่อสุดสัปดาห์ว่า ความผิดพลาดเกิดจาก เจ้าหน้าที่ทั้งสองสื่อสารกันผ่านโทรศัพท์ จากคำว่า “มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเชื้อเอชไอวี” เป็นคำว่า “ไม่มีปฏิกิริยา” โดยไม่มีการตรวจสอบรายละเอียดจากแหล่งอื่นซ้ำอีกรอบตามที่ขั้นตอนกำหนด (ตรูอยากจะบร้า)
ทั้งนี้ ผู้บริจาคอวัยวะเป็นชายวัย 37 ปี ในเมืองซินฉู่ ฮ่ะ เขาได้ล้มป่วยถึงขั้นโคม่าเมื่อวันที่ 24 ส.ค. โดยหัวใจ ตับ ปอด และไตสองข้าง ของเขาได้รับการปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย 4 รายของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันและผู้ป่วยอีก 1 ราย จากโรงพยาบาลอื่น โดยที่ครอบครัวของผู้บริจาค ไม่รู้ว่าเขาติดเชื้อเอชไอวี (เชื้อเอดส์) ซึ่งขณะนี้แพทย์และพยาบาลที่ร่วมทำการปลูกถ่ายอวัยวะเริ่มแสดงความกังวลว่าพวกเขาอาจมีความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีด้วยก็เป็นได้ (กรรม)
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขกำลังจะเข้าตรวจสอบเรื่องนี้และจะตัดสินใจว่าจะดำเนินมาตรการลงโทษต่อโรงพยาบาลอย่างไร ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจต้องรับโทษจำคุกสูงถึง 10 ปีและทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน อาจต้องถูกสั่งห้ามทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะนาน 1 ปี (แค่เนี้ยะ..)
อ่านข่าวข้างบนแล้วอิฮั้นก็สงสัยจังเลยฮ่ะ ว่าอิ่ตอนที่ผู้บริจาคเสียชีวิต ไม่ได้มีการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตกันก่อนหรือค้า ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอันใด อยู่ดี ๆ พอเค้าตายก็ไปจกร่างเค้ามาทำการผ่าเอานู่นนี่นั่นโน่นไปปลูกถ่ายให้คนอื่นเลยเนี่ยนะ มันง้ายยยย...ไปรึเปล่าฟระคะ..ก็หวังว่าเมืองไทยเราคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้นะ สงสารทั้งคนให้และคนรับอ่ะ ไหนจะญาติพี่น้องของผู้ได้รับการบริจาคที่ได้รับผลกระทบอีก งานนี้ต้องโทษความชุ่ยของ ผู้รับผิดชอบสถานเดียวเลยฮ่ะ ไม่ต้องไปโทษให้เป็นความผิดของคนอื่นดอก..ก็หวังว่าผู้ได้รับการปลูกถ่ายทั้่งหมดคงได้รับยาต้านและไม่มีผลอะไรต่อสุขภาพของตัวเองล่ะนะค้า
แล้วพบกันใหม่กับเคลิ้มสมาคมในตอนหน้าค่า
ข่าวนี้จะกองหรือไม่กรองก็ไม่รู้ค่ะคุณขา แต่มันข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแดนไต้หวันโน่นแน่ะ
โดยที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ในกรุงไทเป ของไต้หวัน ได้นำอวัยวะ จากผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (เชื้อเอดส์) ซึ่งได้รับการบริจาค ปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยถึง 5 รายด้วยกัน !!!!!..
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและบอกว่าขณะนี้ผู้ป่วยที่ได้รับอวัยวะของผู้ติดเชื้อ กำลังได้รับยาต้านเชื้อเอชไอวีแล้ว (พี่คะ อันนั้นมันอวัยวะที่ปลูกถ่ายจากน้องเอชนะ ได้รับยาต้านเชื้อแล้ว เชื้อมันจะหายเหรอคะ) และได้โพสข้อความชี้แจงผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาล เมื่อสุดสัปดาห์ว่า ความผิดพลาดเกิดจาก เจ้าหน้าที่ทั้งสองสื่อสารกันผ่านโทรศัพท์ จากคำว่า “มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเชื้อเอชไอวี” เป็นคำว่า “ไม่มีปฏิกิริยา” โดยไม่มีการตรวจสอบรายละเอียดจากแหล่งอื่นซ้ำอีกรอบตามที่ขั้นตอนกำหนด (ตรูอยากจะบร้า)
ทั้งนี้ ผู้บริจาคอวัยวะเป็นชายวัย 37 ปี ในเมืองซินฉู่ ฮ่ะ เขาได้ล้มป่วยถึงขั้นโคม่าเมื่อวันที่ 24 ส.ค. โดยหัวใจ ตับ ปอด และไตสองข้าง ของเขาได้รับการปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย 4 รายของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันและผู้ป่วยอีก 1 ราย จากโรงพยาบาลอื่น โดยที่ครอบครัวของผู้บริจาค ไม่รู้ว่าเขาติดเชื้อเอชไอวี (เชื้อเอดส์) ซึ่งขณะนี้แพทย์และพยาบาลที่ร่วมทำการปลูกถ่ายอวัยวะเริ่มแสดงความกังวลว่าพวกเขาอาจมีความเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีด้วยก็เป็นได้ (กรรม)
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขกำลังจะเข้าตรวจสอบเรื่องนี้และจะตัดสินใจว่าจะดำเนินมาตรการลงโทษต่อโรงพยาบาลอย่างไร ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจต้องรับโทษจำคุกสูงถึง 10 ปีและทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน อาจต้องถูกสั่งห้ามทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะนาน 1 ปี (แค่เนี้ยะ..)
อ่านข่าวข้างบนแล้วอิฮั้นก็สงสัยจังเลยฮ่ะ ว่าอิ่ตอนที่ผู้บริจาคเสียชีวิต ไม่ได้มีการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตกันก่อนหรือค้า ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอันใด อยู่ดี ๆ พอเค้าตายก็ไปจกร่างเค้ามาทำการผ่าเอานู่นนี่นั่นโน่นไปปลูกถ่ายให้คนอื่นเลยเนี่ยนะ มันง้ายยยย...ไปรึเปล่าฟระคะ..ก็หวังว่าเมืองไทยเราคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้นะ สงสารทั้งคนให้และคนรับอ่ะ ไหนจะญาติพี่น้องของผู้ได้รับการบริจาคที่ได้รับผลกระทบอีก งานนี้ต้องโทษความชุ่ยของ ผู้รับผิดชอบสถานเดียวเลยฮ่ะ ไม่ต้องไปโทษให้เป็นความผิดของคนอื่นดอก..ก็หวังว่าผู้ได้รับการปลูกถ่ายทั้่งหมดคงได้รับยาต้านและไม่มีผลอะไรต่อสุขภาพของตัวเองล่ะนะค้า
แล้วพบกันใหม่กับเคลิ้มสมาคมในตอนหน้าค่า
ที่มา mthai.com